จากความประทับใจกับใบไม้หลากสีที่ Oyunuma Brook Natural Footbath เราเดินทางต่อพร้อมสายฝนโปรยปรายตลอดทาง มุ่งหน้าสู่ Lake Toya แต่…
ดูเหมือนว่าคุณพ่อยังติดใจซุปปูกับข้าวอบปูมื้อแรกอยู่ เลยขับรถพาเราย้อนกลับไปตลาดปลาที่ Shiraoi ซะงั้น คือเลี้ยวเร็วเกินกว่าที่ GPS บอก (กลัวจะพลาด) แค่ผิดไปหนึ่งเลี้ยวบนทางด่วน เสียเวลาไปหนึ่งชั่วโมง เพราะผิดแล้วผิดเลย ต้องรอจนกว่าจะถึงทางออกนั่นแหละ พอรู้ว่าเลี้ยวผิด คุณพ่อขับรถแบบเกร็ง ๆ ส่วนคุณแม่ เงียบไป 5 วินาที (เยอะนะสำหรับสถานการณ์นี้) อุ๊ย เพิ่งวันแรกเอง คุณแม่ยังจำกฎได้ “อารมณ์ดีเสมอ (ไม่บ่นแม้หลงทาง)” นึกขึ้นได้ก็หันไปยิ้มหวานให้คนขับ 1 ที บรรยากาศดีขึ้นมาผิดหูผิดตา (จบไป สำหรับหลงที่หนึ่ง)
ตามแผนเดิม เราจะไปเก็บองุ่นกับแอปเปิ้ลกันที่ Sobetsu Fruit Village เพราะเป็นทางผ่าน แต่ฝนพรำเกินกว่าที่จะเพลิดเพลินกันในสวนได้ เราเลยแค่แวะซื้อองุ่นไร้เมล็ด 1 แพ็ค (ของพี่รัก) แอปเปิ้ลลูกใหญ่ 1 แพ็ค (ของคุณพ่อคุณแม่) แอปเปิ้ลจิ๋ว 1 แพ็ค (ของน้องโรม) ทุกอย่างแพ็คละ 500 เยน ทานหลังอาหารและระหว่างมื้อ สองวันหมด และก่อนขึ้นรถ คุณพ่อขอถ่ายต้นแอปเปิ้ลไว้เป็นหลักฐาน เป็นเหตุให้น้องโรมเอ่ยปากว่า “คุณพ่อจะถ่ายรูปไปถึงไหนเนี่ย” คือว่า คุณลูกหนาวอยากเข้ารถสุด ๆ
จากสวนแอปเปิ้ลไปที่พักคืนแรก GPS ช่วยอะไรเราไม่ได้เลย หา Map Code ไม่ได้ ใส่เบอร์โทรศัพท์ที่พักเข้าไป ระบบก็ไม่รู้จัก เริ่มหวั่นว่าที่พักเราคืนนี้มันโนเนมขนาดนี้เลยหรือนี่ งานนี้คุณพ่อโชว์ความสามารถในการเดาทิศ เราพักริมทะเลสาบน่าจะทางนี้นะ ไปถูกทางซะด้วย ปัญหาคือตอนจองที่พักกับเจแปนนิคัง JAPANiCAN.com ชื่อรีสอร์ทโชว์ขึ้นมาเป็นภาษาอังกฤษ แต่พอมาเข้าจริง ขับผ่านไปหลายที่ก็มีแต่ชื่อภาษาญี่ปุ่นทั้งนั้น คุณแม่คิดว่าไม่ได้การแล้วเราจอดจิ้มคัมภีร์ถามดีกว่า Bellboy แห่งแรกชี้บอกให้ขับเลยไปอีกนะ Bellboy แห่งที่สองก็บอกเหมือนกัน Bellboy แห่งที่สามใจดีส่งแผนที่ภาษาญี่ปุ่นล้วนให้ (รับมาแบบปาดเหงื่อ) พร้อมวง ๆ ว่าเราอยู่ตรงนี้นะ แล้วที่พักคุณอยู่ตรงนี้ (อธิบายเป็นภาษาญี่ปุ่น คือว่าเดาเอาจากนิ้วเค้า) ดูแล้วยังมึนอยู่ แต่จำใจขับต่อไปแบบมึน ๆ จนรู้สึกว่าเลยมาแล้วแน่ ๆ พากันกลับรถ จอดถามอีกสักที Bellboy ที่สุดท้ายบอกว่า นี่แหละ ที่นี่ The Lake View Toya Nonokaze Resort อ้อ ที่ขับผ่านมาเมื่อกี้ แล้วดูดีมากจนคิดว่าไม่ใช่ของเราแหงน่ะเหรอ โอ้ว โอเค แล้วป้ายหน้ารีสอร์ทนี่ภาษาญี่ปุ่นล้วน ๆ เลย จะรู้มั้ย ว่าแล้วเค้าเชิญเราลงจากรถ ขนกระเป๋าลงให้ แถมเอารถไปจอดให้ด้วยจ้า (จบไป สำหรับหลงที่สอง จากวันนี้จนจบทริปญี่ปุ่นไม่มีหลงอีกเลยนะนี่ เพราะคัมภีร์ดีเลิศ)
เดินเข้าล็อบบี้มา ตาโตครั้งแรกให้กับวิวทะเลสาบที่มองผ่านกระจกสูงตอนเช็คอิน พาโนรามามากมาย ขนาดฝนตกยังสวยได้อีก ตาโตครั้งที่สองให้กับมุมนั่งรออย่างสบายอารมณ์ ชมสาวญี่ปุ่นแต่งตัวสวยเลยเชียว ยืนเป่าฟลุ้ตหนึ่งคน อีกสาวนั่งเล่นเปียโนอยู่ สามแม่ลูกหย่อนก้นปุ๊บ น้ำองุ่นกับขนมตามมาเสิร์ฟปั๊บ รอไปฟังเพลงบรรเลงไปแสนเพลิดเพลินเจริญใจ พอคุณพ่อเช็คอินเสร็จ พนักงานมาพาเราไปห้องพัก
ตาโตครั้งที่สามให้ห้องพักแบบ Corner Room ขนาดใหญ่เป็นสองเท่าของห้องอื่น ตอนจองไม่รู้อะไรเลยเพราะเหลืออยู่ห้องเดียว จองเพราะเห็นว่ามีห้องน้ำในตัวเท่านั้นเอง สรุปคือมีระเบียง พร้อมกระจกสูงสองด้านเห็นวิวทะเลสาบ มองลงไปเห็นท่าเทียบเรือล่องทะเลสาบพอดี ถัดจากระเบียงเข้ามาเป็นห้องนั่งเล่นแบบเป็นเก้าอี้ 2 ตัว ห้องนี้มีตู้เย็น เครื่องชงกาแฟให้พร้อม ถัดเข้ามาเป็นห้องแบบญี่ปุ่นปูเสื่อทาทามิ มีเบาะนั่งพื้น 4 ใบ พร้อมทีวีจอแบน มีตู้เก็บฟูก ซึ่งเค้าจะมาปูที่นอนให้ตอนเราทานมื้อเย็น มีตู้เก็บเสื้อผ้าวางชุดยูกาตะกับเสื้อคลุมให้พร้อมสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ บนโต๊ะกลางวางขนมไว้สองอย่าง คุณแม่ไม่พลาดชิมคนแรก อร่อยดี ถัดเข้ามาอีกเป็นห้องส้วม แยกกันชัดเจนกับห้องน้ำ มีอ่างอาบน้ำ และเครื่องอาบน้ำแบบเยอะเว่อร์สำหรับผู้ชายหนึ่งชุด ผู้หญิงหนึ่งชุด ถัดเข้ามาในสุดเป็นห้องนอน มีมุมโต๊ะทำงานและมีเตียง 2 เตียง ในห้องนอนนี้จะมีกระจกหน้าต่างสูงเห็นวิวตึกที่เป็นตัวเมือง สรุปว่าห้องพักที่เราจอง (แบบไม่ได้ตั้งใจ) กินพื้นที่เท่ากับความกว้างของอาคารนี้เลย
ตื่นเต้นกันเสร็จสรรพจนตาหายโตแล้ว คุณพ่อคุณแม่ชวนคุณลูกลงไปเดินเล่นริมทะเลสาบกันดีกว่า เดินออกนอกตึก ความหนาวปะทะหน้าอย่างจัง แถมฝนตกอีกต่างหาก รีบหันหลังเข้ามาตั้งหลักกันใหม่ในตัวอาคาร กลับขึ้นห้องไปแช่ออนเซนกันดีกว่า พี่รักหลับหูหลับตาโวยวายว่าไม่ไปเด็ดขาด คุณแม่รู้ทัน รีบบอกว่า คุณแม่จองออนเซนส่วนตัวไว้นะมีแต่พวกเราสี่คน พูดไปเหล่ดูลูกไป เห็นพี่รักอมยิ้มไว้ไม่อยู่ต้องคายยิ้มกันเลยทีเดียว
ออนเซนส่วนตัวที่นี่เห็นวิวทะเลสาบ คุณพ่อบ่นเสียดายตามประสาคนชอบถ่ายรูป พราะเราได้คิวตอนหกโมงเย็น ฟ้ามืดแล้ว ไม่มีแสงทไวไลท์อย่างที่คุณพ่อชอบ เปิดประตูเข้าห้องออนเซนมาจะมีห้องนั่งเล่นพร้อมทีวี ตู้เย็น น้ำดื่ม มีห้องส้วม มีหน้ากระจกพร้อมอ่างล้างหน้าสองอ่าง ห้องใหญ่มาก (อีกแล้ว) อ่างก็ใหญ่ น้ำในอ่างก็ร้อนเกินสำหรับเรา กว่าจะหย่อนครบทั้งตัวใช้เวลาฮึดกันพอควร แช่อยู่ได้ครึ่งชั่วโมง คุณพ่อบอกจะเป็นลม (นะ คนไม่เคยลงอ่างอ่ะนะ) ชวนกันขึ้นกับคุณลูก คุณแม่ก็ไม่ไหวเหมือนกัน แช่ต่อได้แป๊บเดียวก็ขึ้นตามมา ใส่ชุดยูกาตะ ได้เวลามื้อเย็นพอดี
ตาโตครั้งที่สี่ให้กับอาหารมื้อเย็น ห้องอาหารที่นี่เป็นแบบบุฟเฟต์ทั้งมื้อเย็นและมื้อเช้า อาหารละลานตา ตักอย่างละนิด ยังชิมได้ไม่ครบทุกอย่าง สงสารท้อง ไม่น่าจะรับไหว จำใจต้องเบรกปากไว้ไม่ให้ลำบากร่างในภายหลัง ทานมื้อเย็นเสร็จกลับขึ้นห้องมารอเวลาเค้าจุดพลุกลางทะเลสาบตอน 20.45 น. ไม่ต้องนั่งเรือออกไปให้ลำบาก นั่ง ๆ ยืน ๆ ดูที่ระเบียงห้องสบายกว่ากันเยอะ
ระหว่างรอ คุณพ่อกับน้องโรมลงไปที่ล็อบบี้เพื่อขอยืมอะแดปเตอร์ แต่น้องโรมดันกดผิดชั้น ออกจากลิฟต์ไปตาโตครั้งที่ห้า แทนที่จะออกไปเจอล็อบบี้ ดันออกไปเจอดงตู้หนีบตุ๊กตา รีบกลับขึ้นมารายงานพี่รัก แล้วพากันลงไปประลองฝีมือ หนีบละ 100 เยน หนีบแรกพี่รักได้มาเลย ตุ๊กตาโดราเอมอน ยังความปลาบปลื้มให้สมาชิกในครอบครัวยิ่งนัก (ลืมไปว่านี่เพิ่งวันแรก เราต้องหิ้วโดราเอมอนไปกับเราอีก 11 วันเลยนะลูก) กลับขึ้นห้องได้เวลาดูพลุพอดี
ตาโตครั้งที่หก (สุดท้ายละจ้า ก่อนที่ตาจะหลุดออกจากเบ้า) ให้กับแสงสีของพลุยามค่ำคืน นอกจากตาโตแล้ว ยังอ้าปากค้างกันอีกด้วย พี่รักน้องโรมส่งเสียงตื่นเต้นไม่หยุดหย่อน แถมด้วยเสียงตื่นเต้นของนักท่องเที่ยวที่ยืนดูตรงท่าเรืออีก ดูพลุ 20 นาทีนี่นานมาก จนต้องเลิกดูก่อนที่เค้าจะจุดชุดสุดท้ายเสร็จเสียอีก (รูปพลุไม่สวย ย้อนไปดูคลิปในไทม์ไลน์คุณแม่ได้นะ) คืนนี้เด็ก ๆ หลับยาวตื่นสายโด่ง (อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ปกติเด็กบ้านนี้ตื่นเช้ามาก) เป็นโอกาสอันดีให้คุณพ่อไปนั่งเก้าอี้นวดไฟฟ้านวดตัวนวดขาอยู่หน้าลิฟต์ ได้คลายเมื่อยหลังไปได้บ้าง ถูกใจคุณพ่อเป็นที่สุด
ทานมื้อเช้าเสร็จ เช็คเอาต์ แวะถ่ายรูปริมทะเลสาบสามนาทีก่อนไปขึ้น Usuzan Ropeway ฝนตกก็ไม่หวั่น คว้าเสื้อกันฝนกับร่มเดินตาม ๆ เค้าไป ฝนใจดีหยุดตกให้ได้เห็นวิวทะเลสาบนิดนึง อากาศหนาวแบบทนได้ ก่อนลงเขา สามคนแม่ลูกนั่งเลียซอฟต์ครีมแก้หนาวเป็นครั้งที่สองของทริป ลงจากเขา เรามุ่งหน้าไป Otaru กว่าจะจบทริปญี่ปุ่น ลองทายกันดูว่ามีซอฟต์ครีมผ่านมือผ่านลิ้นเราไปกี่โคน (ใบ้ให้ง่าย ๆ ก็ได้ว่าเราชิมทุกผ่าน โห ตาโตกันเลยล่ะสิ กี่ผ่านกันละนี่) รอเฉลยในบันทึกสุดท้ายนะค้า
IMAGERY: Toya Lake familygallery and Toya Lake resortgallery
Leave a Reply