เหมือนจะเคยเกริ่นไว้บ้างแล้วว่าคุณแม่ใส่ Kyoto ไว้ในทริปนี้แบบใช้อำนาจสิทธิ์ขาดของคนทำตารางเดินทางเอง แถมใส่สถานที่ที่ต้องเดินชมค่อนข้างมากเลยทีเดียว รวมแล้วทั้งหมด 6 ที่ พี่รักขอเช็คตารางการเดินทางแต่เช้า คอยตรวจสอบไม่ให้คุณแม่ออกนอกแผน เราออกจาก Tokyo แต่เช้า มาถึง Kyoto ประมาณสิบโมง ใช้เวลานั่ง Shinkansen สองชั่วโมงครึ่ง
ที่นี่เราพักที่ Ibis Styles Kyoto Station 2 คืน สะดวกสบายมาก ๆ เพราะโรงแรมอยู่ฝั่งตรงข้ามสถานี Kyoto เลย ถึงห้องจะเล็กไปนิดแต่ก็ราคาถูกที่สุดในทริปนี้ คุณพ่อจองตอนมีโปรโมชั่นลดครึ่งราคา เราเอากระเป๋าไปฝากไว้ที่โรงแรมก่อนเพราะยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน
คุณพ่อถามว่าเราไปที่ไหนที่แรก คุณแม่เปิดกระเป๋าจะหยิบตารางเดินทางมาดู ไม่มี ลืมไว้ที่ Tokyo เอ่อ แล้วที่จดไว้ให้คุณพ่อว่าที่ไหนต้องไปเช้า ที่ไหนต้องไปบ่าย เพื่อให้คุณพ่อได้มุมถ่ายภาพที่ถูกต้องล่ะ ทำไง คิดอยู่สองวินาที คุณแม่เคยส่งอีเมลตารางการเดินทางให้คุณพ่อนี่นา ว่าแล้วจัดการส่งอีเมลให้พนักงานโรงแรมช่วยพิมพ์ออกมาให้ตั้งแต่หน้า 62 ถึง 77 ตอนแรกเค้าจะคิดเงินแผ่นละกี่เยนจำไม่ได้ แต่สุดท้ายก็พิมพ์ให้ฟรี ดีจริง ๆ
เส้นทางการชมเมืองและสถานที่ต่าง ๆ วันนี้วกวนพอควร เริ่มจากช่วงเช้าไปวัด Kiyomizudera ศาลเจ้า Yasaka Shrine และย่าน Gion ที่อยู่ทางตะวันออก ช่วงบ่ายไปวัด Kinkakuji ที่อยู่ทางเหนือ ตอนเย็นไปศาลเจ้า Fushimi Inari ที่อยู่ทางใต้ ทั้งนี้ ด้วยเหตุผลในการถ่ายรูปของคุณพ่อโดยเฉพาะ
ที่แรกที่วัด Kiyomizudera เราต้องเดินขึ้นเนินผ่านร้านขายของที่ระลึกสองข้างทางและมวลชนจำนวนมาก คุณแม่ขอนุญาตเปรียบเทียบเป็นสำเพ็งก็แล้วกัน จะได้เห็นภาพ เดินไปยังไม่ถึงทางเข้าวัด แต่เห็นอยู่ลิบ ๆ พี่รักน้องโรมประท้วงโดยการนั่งลงบนพื้นถนนกันเลย ทำยังไงก็ไม่ยอมเดินต่อ บอกว่าหมดแรง เมื่อยขาที่สุด ดูจากจำนวนผู้คนมหาศาลขนาดนั้น คุณแม่ตัดสินใจบอกคุณพ่อว่าคุณแม่จะพาลูกซื้อของเล่นพื้นบ้านคนละหนึ่งชิ้น แล้วหาร้านทานขนมนั่งรอ ให้คุณพ่อเข้าไปถ่ายรูปในวัดเพียงคนเดียว
พูดจบปุ๊บ พี่รักน้องโรมมีแรงยืนและเดินดูของเล่นทันที เลือกของเล่นร้านนู้น ร้านนี้กันอยู่พักใหญ่ กว่าจะได้เข้าร้านขนม พอคุณแม่สั่งไอศกรีมเสร็จ ก็เห็นคุณพ่อเดินเข้าร้านมาแล้ว ไม่แน่ใจว่าคุณพ่อถ่ายรูปแบบติดจรวด หรือลูกเดินเลือกของเล่นนานกันแน่ ระหว่างนั่งทานขนมกัน คุณพ่อกับคุณแม่ต้องนั่งปรึกษาหากลยุทธ์พิชิตการประท้วงของลูก ดูท่าแล้วลูกจะไม่สนุกกับการเดินชมวัดเป็นแน่แท้ คุณพ่อคุณแม่เลยตัดสินใจพาลูกนั่งรถลากไปศาลเจ้า Yasaka Shrine และทานมื้อเที่ยงแถวนั้น
จากนั้นนั่งแทกซี่ไปวัด Kinkakuji เพื่อรูปยามบ่ายของคุณพ่อ แล้วนั่งแทกซี่มาศาลเจ้า Fushimi Inari เพื่อรูปในยามเย็น สรุปคือเราประหยัดค่าที่พักมาจ่ายค่ารถลากกับค่าแทกซี่นี่เอง
ที่ศาลเจ้า Fushimi Inari น้องโรมมีแรงฮึด ชวนคุณแม่เดินขึ้นไปถึงจุดชมวิวซึ่งยังไม่ถึงยอดเขา แต่ก็เมื่อยขาสุด ๆ เพราะเดินขึ้นอย่างเดียวเลย ส่วนคุณพ่อกับพี่รักยอมแพ้ขอรออยู่ข้างล่าง น้องโรมมีจุดมุ่งหมายในการนี้ คือใช้กล้องส้องทางไกลที่น้าย้งให้ส่องดูวิวเมือง Kyoto ครับ กว่าจะถึงจุดชมวิวก็เป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังตกพอดี คุณแม่เศร้าใจเป็นที่สุด ถึงแม้จะคว้ากล้องคุณพ่อติดมือมาด้วย แต่ฝืมือการถ่ายรูปของคุณแม่นี่ หาดีไม่ได้เลยจากหลายสิบรูป ทั้งที่ภาพที่เห็นข้างหน้านั้นสวยงามมากมาย อยากให้คุณพ่อกับพี่รักขึ้นมาดูด้วยกันจริง ๆ
ขากลับลงไปอากาศเย็นมากเพราะอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว สองคนแม่ลูกเดินแบบหลง ๆ งง ๆ คอยถามทางเค้าตลอดเพราะค่อนข้างมืด แต่ก็ยังมีคนเดินสวนขึ้นไปเป็นคู่ ๆ คงจะไปชมวิวยามค่ำคืนจากบนเขากันเพลิน ๆ สินะ ลงมาถึงข้างล่าง คุณพ่อบอกว่านั่งดูพระอาทิตย์ตกสวยมากเลย คุณแม่ก็บอกว่าพระอาทิตย์ตกบนเขาก็สวยมากเหมือนกัน
สรุปเราได้ดูพระอาทิตย์ตกด้วยกันแหละเนอะคุณพ่อ แค่จากคนละมุมมอง ใช่มั้ยคะ
IMAGERY: Kyoto familygallery and Kyoto resortgallery
Leave a Reply