วันที่ 11 ของการเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกของครอบครัว เรานั่งรถไฟ 3 ชั่วโมงจากจาก Kyoto ไป Tottori แล้วเช่ารถขับ จุดหมายปลายทางหลักของที่นี่คือ Conan Village เอาใจพี่รักเต็มที่กันไปเลย
คุณแม่จำได้ว่าเพิ่มที่นี่เข้ามาในแผนการเดินทางแบบเฉียดฉิวเพราะบังเอิญอ่านเจอในนิตยสารท่องเที่ยวขณะที่รอคุณพ่อตัดผม เปิดผ่านไปผ่านมาสะดุดอย่างจังเกี่ยวกับหมู่บ้านนี้ ตอนแรกคุณพ่อไม่เห็นด้วยเพราะเส้นทางเลยเถิดไปไกลกว่าเดิมมาก แต่สุดท้ายก็ยอมเพราะคิดแล้วคุ้มที่จะปิดท้ายทริปครั้งนี้ด้วยสถานที่ที่ลูกประทับใจ คุณแม่พยายามหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นเพื่อไม่ให้เสียเที่ยวที่ต้องออกนอกเส้นทางมาไกลขนาดนี้ ในที่สุดก็หาเพิ่มได้อีกสองสามที่ มีพิพิธภัณฑ์ลูกแพร์ (Nijisseiki Pear Museum) พิพิธภัณฑ์ของเล่น (Warabekan Museum) และพิพิธภัณฑ์ทราย (Sand Museum) แล้วยังมีแผนจะขี่อูฐ เล่นกระดานเลื่อนกลางทะเลทรายกันอีกด้วย
ออกจากสถานีรถไฟมา สี่คนพ่อแม่ลูกพากันเดินไปศูนย์เช่ารถ สิ่งแรกที่ทำคือเปลี่ยนชุด อากาศคนละเรื่องกับที่ Kyoto เลย เรียกว่าร้อนเลยดีกว่า ดูพยากรณ์อากาศ วันนี้อากาศดี พรุ่งนี้ฝนตก คุณพ่อกับคุณแม่ปรึกษากันไม่นานก็ตัดสินใจยกวันอากาศดีให้ลูก ส่วนทะเลทรายเอาไว้วันฝนตกก็ได้เพราะไม่ใช่จุดหมายปลายทางหลัก
ก่อนไป Gosho Aoyama Manga Factory เราไปแวะดูพิพิธภัณฑ์ลูกแพร์กันก่อน ที่นี่มีประวัติเกี่ยวกับสายพันธุ์ลูกแพร์หลากหลายชนิดพร้อมมีลูกแพร์ให้ชิมฟรี (ชิมแล้ว ลิ้นธรรมดาอย่างเราไม่รู้ถึงความแตกต่างเลย) แถมยังมีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากลูกแพร์มากมาย พวกเราก็ไม่พลาด Soft Cream ลูกแพร์เด็ดขาด ขึ้นชื่อว่าไอศกรีม ยังไงก็อร่อย โชคดีที่วันนั้นมีการแข่งขันจัดดอกไม้ คุณแม่ได้เดินดูดอกไม้นานาชนิดที่เค้าจัดส่งประกวดกัน สวย ๆ ทั้งนั้น ดูครบรอบ พ่อลูกกิน Soft Cream หมดพอดี
เด็ก ๆ รีบคะยั้นคะยออยากไป Conan Village ไว ๆ คุณพ่อขับตาม GPS ไป กว่าจะถึงก็เกือบจะถอดใจ เพราะเส้นทางลัดเลาะไปตามทุ่ง ดูกันดารมากทีเดียว กว่าจะถึงเมืองเล็ก ๆ (ขอบอกว่าเล็กมาก ๆ แทบไม่มีรถสวนมาเลย) เด็กก็บ่นแล้วบ่นอีกว่าเมื่อไหร่จะถึง ก่อนถึง Gosho Aoyama Manga Factory ต้องขับรถผ่านสะพานและลานกว้าง คุณพ่อต้องคอยจอดรถเป็นระยะ ๆ เพื่อให้พี่รักกับน้องโรมได้ถ่ายภาพกับรูปปั้นโคนันตามถนน มีจุดให้ถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ (ที่จริงควรเดินไป จะได้ไม่พลาดมุมถ่ายรูป) แค่ที่สะพานก็อยู่กันนานเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว คุณพ่อบอกให้รีบไปเดี๋ยวพิพิธภัณฑ์ปิด และ (เหมือนเดิม) ไม่อยากถึงที่พักตอนฟ้ามืด)
ไปถึงหน้าพิพิธภัณฑ์ เห็นมีครอบครัวญี่ปุ่นอีกครอบครัวเดียวที่พาลูก ๆ มาเที่ยว บ้านเรายังคงถ่ายรูปกันต่อเนื่องพักใหญ่ กว่าจะได้เข้าพิพิธภัณฑ์ (กลับมาเมืองไทยแล้วถึงรู้ว่า คุณพ่อไม่ได้ถ่ายรูปรถของดอกเตอร์อากาสะมาเลยสักรูปเดียว ได้ไงเนี่ย ไม่เข้าใจ) พิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ ที่เหมือนไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับคุณพ่อคุณแม่ (ดันเอาไปเทียบกับ Miraikan) แต่ลูก ๆ ชอบมาก อยู่กันได้นานแสนนาน แวะทุกจุดทุกมุม ไม่มีพลาด น้องโรมชอบ Skateboard มากที่สุด มาจบตรงจุดสุดท้ายที่ขายของที่ระลึกซึ่งเล็กมาก (ไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับคุณพ่อคุณแม่เหมือนเดิม) แต่ลูกได้ขนมแผ่นรสชาติคล้ายทองม้วนมีพิมพ์ลาย Conan ไพ่ Conan ส่วนคุณแม่ยังอุตส่าห์ได้เทปกาวลาย Conan มากับเค้าด้วยอีกต่างหาก
เสร็จจากที่พิพิธภัณฑ์ คุณแม่ชวนคุณพ่อขับรถไปสถานีรถไฟ Yura Station (Conan Station) ซึ่งจะมีมุมให้ลูกได้ถ่ายรูปอีกมากมาย แถมยังจะได้เก็บแผนที่ไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย แต่ใกล้ค่ำแล้ว คุณแม่ยังหาทางไปไม่เจอ คุณพ่อบอกพอแล้ว อยากพัก ลูก ๆ บ่นนิดหน่อยว่าทำไมเราอยู่ที่พิพิธภัณฑ์แป๊บเดียว (แต่นานสำหรับคุณพ่อคุณแม่ คือความรู้สึกกลับกันกับตอนที่คุณพ่อคุณแม่เข้าวัดแป๊บเดียว แต่ลูกรู้สึกว่านานมาก ประมาณนั้น)
สุดท้ายต้องตามใจคนขับรถ หาทางไปโรงแรมง่ายกว่าหาทางไปสถานีรถไฟแฮะ คืนนี้เราพักเรียวกัง Sennentei ไว้มาเล่าให้ฟังอีกทีว่าเป็นยังไงค่ะ
IMAGERY: Conan Village familygallery and Conan Village resortgallery
Leave a Reply