วันที่สามที่ Dresden เรามีเวลาถึงบ่ายสองโมงครึ่งก่อนขึ้นรถไฟไป Potsdam เมื่อวานเดินกันมาหนักมาก วันนี้คุณพ่อขอนั่งสามล้อ (Modern Cycle Rickshaw) วนดูรอบ ๆ เมืองก่อนแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะเข้าไปดูที่ไหนเป็นพิเศษ กินอาหารเช้าเสร็จแล้วเดินมุ่งหน้าไปย่าน Neumarkt เพราะเป็นจุดศูนย์รวมทุกอย่างทั้งร้านอาหาร โบสถ์ Frauenkirche (Church of Our Lady) และรถสามล้อของเรา แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะเริ่มตอน 10 โมง คุณแม่เลยจำเป็นต้องกินไอศกรีมรอ (อย่างมีความสุข)
รอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ สามล้อที่ต้องการก็ยังไม่มาสักที มีแต่สามล้อแบบบ้านเรา คุณพ่อบอกนั่ง ๆ ไปเถอะ คุณแม่ไม่ยอม สามล้อแบบบ้านเราต้องนั่งที่บ้านเราสิ เลยพากันเดินเล่นรอบ ๆ โบสถ์ก่อน เลี้ยวเข้าถนน Augustus Street ชมกำแพง Procession of Princes ผนังทำจากกระเบื้องเคลือบของเมือง Meissen เป็นรูปเจ้าชายผู้ครองเมืองเดรสเดนในอดีตเรียงรายเป็นแถวยาว คุณแม่ขอแวะซื้อโปสการ์ดสองใบที่ร้านข้าง ๆ โรงแรม Hilton แล้วเดินกลับมาหน้าโบสถ์ รถสามล้อที่ต้องการมาแล้วแต่ดันรับนักท่องเที่ยวคนอื่นออกไปพอดี แป่วววว คุณแม่ไม่ยอมแพ้ รอต่อไป มันต้องมีคันอื่นสิคะคุณพ่อ ว่าแล้วคุณแม่ก็ชวนคุณพ่อเขียนโปสการ์ดส่งหาลูกกันดีกว่า
เขียนโปสการ์ดเสร็จสักพัก รถสามล้อแบบที่ต้องการก็มา เค้าให้เลือกว่าจะนั่งครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมงก็ได้ คุณพ่อเลือกหนึ่งชั่วโมง ไม่ได้นั่งเปล่านะ คนขี่สามล้อเค้าเป็นไกด์ด้วย อธิบายละเอียดยิบทุกจุดเลย ไม่เว้นแม้กระทั่งฝาท่อ พาไปทุกที่แถมบอกด้วยว่ามุมไหนสวย มุมไหนต้องถ่ายรูป คุณแม่รู้สึกว่าหนึ่งชั่วโมงผ่านไปไวมาก ๆ แต่พอเห็นเหงื่อชุ่มโชกของไกด์เราแล้ว เอ่อ ก็คงไม่ได้ไวมากมายอย่างที่คุณแม่คิดแฮะ สามล้อพาคุณพ่อคุณแม่กลับมาส่งที่หน้าโบสถ์ Frauenkirche ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมือง Dresden โบสถ์สไตล์บารอคนี้ถูกทำลายไปสมัยสงครามโลก และได้รับการซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ระหว่างปี 1996-2005 ว่าแล้วก็เข้าไปชมในโบสถ์ก่อนเดินกลับโรงแรม เค้าห้ามถ่ายรูปและถ่ายวิดีโอข้างใน แต่เท่าที่เห็นมีคนถ่ายรูปเพียบเลย (คุณพ่อไม่ได้ถ่ายนะ)
ชมโบสถ์เสร็จก็เที่ยงพอดี เดินกลับไปที่โรงแรมให้คุณพ่อเช็คเอาต์ ส่วนคุณแม่รีบแจ้นไปซื้อสมุดบันทึกที่ร้านใกล้ ๆ โรงแรม ลดราคาหนักมาก ยี่ห้อเดียวกันนี้ที่เมืองไทยขายไม่ต่ำกว่า 500 บาท ที่นี่ลดแล้วเหลือ 150 บาท คุณแม่ซื้อมา 6 เล่ม เป็นการซื้อของให้ตัวเองครั้งแรกสำหรับทริปนี้ มีความสุขมาก (คิดเองเออเองว่าคุณพ่อคงเห็นด้วยว่ามันคุ้มสุด ๆ)
เราฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมก่อน แล้วพากันเดินผ่านโบสถ์คาทอลิก Kathedrale Hofkirche ไปทาง Theaterplatz Square แวะซื้อไอศกรีมกิน (อีกแล้ว) หน้าโรงละคร Semperoper ก่อนเข้าพระราชวัง Zwinger คุณพ่อปล่อยให้คุณแม่เดินชมพิพิธภัณฑ์ภาพเขียน Gemäldegalerie Alte Meister (Old Masters Picture Gallery) แต่เพียงผู้เดียว เพราะไม่ใช่ทางของคุณพ่อ ตัวคุณแม่เองก็รู้จักอยู่ไม่กี่ภาพอย่าง Sistine Madonna, Sleeping Venus, Hercules Drunk คุณพ่อบอกว่าขอคุยไลน์กับลูกดีกว่า ส่วนคุณแม่ก็เดินดูภาพไปอ่านไลน์กลุ่มครอบครัวไป มีตอบบ้างเมื่อคำถามเกี่ยวข้อง เป็นต้นว่าการบ้านวิชาภาษาไทย คุณแม่เดินวนอยู่หลายชั้น กลับลงมาคิดว่าจะซื้ออะไรติดไม้ติดมือจากร้านขายของที่ระลึกในพิพิธภัณฑ์สักหน่อย แต่ดูราคาแล้วซื้อไม่ลง แพงน้ำตาไหล ทำได้แค่เดินดูให้ซึมซับผ่านทางสายตาแล้วเก็บบันทึกไว้ในใจให้ดีที่สุด (ยิ้มภูมิใจเดินไปอวดคุณพ่อว่าไม่ได้ซื้ออะไรเลย เจ๋งป่ะ)
ออกจาก Zwinger เราก็ไปหาข้าวกินกัน อ่านไม่ผิด หาข้าวกินจริง ๆ ร่างกายคุณพ่อต้องการอาหารไทยเป็นที่สุด ปรากฏว่าร้านอาหารไทยที่คุณพ่อหมายมั่นปั้นปากจะไปกินได้แปลงร่างเป็น Sushi Bar ไปแล้วเรียบร้อย คุณแม่แอบเห็นร้านอาหารจีนอยู่แถว ๆ Brühl’s Terrace ซึ่งเป็นจุดชมวิวริมแม่น้ำ Elbe ระเบียงนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น Balcony of Europe เลยทีเดียว คุณแม่พาคุณพ่อเดินหิ้วท้องไปกินที่ร้าน WOK ซึ่งอยู่บริเวณนี้แทน คุณพ่อสั่งข้าว คุณแม่สั่งผัดหมี่ จานใหญ่มากกินกันไม่หมด พอเรียกเช็คบิล เจ้าของร้านชาวเวียดนามออกมาเก็บเงิน พร้อมบอกว่าราคานี้ยังไม่รวมทิปนะ แหม กลั้นหัวเราะแทบไม่อยู่ ควรให้มั้ยเนี่ย ทิปเนี่ย
ออกจากร้านมา ก้มดูนาฬิกา คงเข้า Transport Museum ไม่ทันเสียแล้ว พากันเดินกลับไปเอากระเป๋าที่โรงแรมนั่งแท็กซี่ไปขึ้นรถไฟที่ Dresden Hauptbahnhof มุ่งหน้าไป Potsdam แต่ต้องไปเปลี่ยนขบวนที่ Berlin ก่อน แล้วก็เกิดเหตุจนได้ ถ้ารถไฟไปถึง Berlin ตรงเวลาคุณแม่ก็คงไม่มีเรื่องมาเล่าตอนต่อไปสินะ…
IMAGERY: Alstadt Dresden familygallery and Alstadt Dresden resortgallery
Leave a Reply