(เล่าต่อจาก “อุทัย พามา SEE”)
คุณแม่เคยเห็นภาพและอ่านเกี่ยวกับแนวคิดการสร้างบ้านสวนจันทิตาจากหนังสือบ้านและสวน แต่ไม่เคยปักหมุดจังหวัดอุทัยธานีเป็นจุดหมายปลายทางมาก่อน จนกระทั่งทริปนี้ที่เมืองอุทัยยังคงเป็นเพียงทางผ่าน แต่คุณแม่ตั้งใจเลือกที่นี่เพื่อให้คุณพ่อและลูกชายคนโตค่อย ๆ ปรับตัวกับการเข้าพักโฮมสเตย์ในคืนแรก ก่อนที่เราจะเข้าป่าในคืนที่สอง
ลงจากเขาสะแกกรัง เราตรงเข้าบ้านพักซึ่งเป็นบ้านไม้ในป่าปลูกเองของป้าจัน มีทั้งหมด 4 หลัง ป้าจันต้อนรับด้วยการให้ลูกชายสองคนอ่านกฎการเข้าพัก (รูปสุดท้าย) ครอบครัวเราทำได้ทุกอย่างไม่มีปัญหา
ระหว่างนั้นป้าจันก็บอกว่าที่จริงป้าจันจัดบ้านหลังที่สี่ซึ่งอยู่สูงสุดไว้ให้ แต่เมื่อคืนมีตุ๊กแกเข้าไป กำลังจัดการหาตุ๊กแกกันอยู่ ยังจับไม่ได้ เลยขอให้เราย้ายไปนอนบ้านหลังที่หนึ่งซึ่งอยู่ล่างสุด บ้านเราง่าย ๆ ยังไงก็ได้
เข้าห้องมาเจอฟูกบนพื้นยก มีทีวี ตู้เย็น แอร์ และเครื่องทำน้ำอุ่น ห้องพักเรียบง่าย สะอาดสะอ้าน สบายตา มีโต๊ะญี่ปุ่นให้หนึ่งตัว คุณแม่แปลงานได้ 4 หน้า ทนแรงดึงดูดของฟูกไม่ไหว
มื้อเช้าเสิร์ฟเจ็ดโมง เป็นก๋วยจั๊บแสนอร่อย ขนมใส่ไส้ ขนมปังสังขยา กาแฟ โอวัลติน ชาหอมหมื่นลี้ อิ่มหนำสำราญกันทุกคน
กินมื้อเช้าเสร็จ สามหนุ่มกลับเข้าห้อง คุณแม่ยังคุยกับป้าจันต่ออีกนาน ได้รู้ว่าป้าจันเป็นคนกรุงเทพฯ ที่หลงรักการอนุรักษ์ป่า เคยทำโครงการร่วมกับ(พี่)สืบ นาคะเสถียร ด้วย (จบมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เหมือนกัน) และชอบออกค่ายไปสอนหนังสือเด็ก ทีนี้เลยคุยกันยาวกับคุณแม่ เพราะมีประสบการณ์คล้ายกันมาเล่าสู่กันฟัง
ป้าจันเกษียณแล้ว ได้ทำในสิ่งที่รัก อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติอย่างที่ต้องการ แถมยังเปิดโอกาสให้เราซึ่งเป็นเพียงผู้ผ่านมาได้สัมผัสทั้งความงามของธรรมชาติและความงามในใจของป้าจันอีกด้วย
Imagery: Baan Suan Chantita familygallery and Baan Suan Chantita resortgallery
Leave a Reply